คำเตือนของทรัมป์: ไม่มีช่วงเวลาผ่อนปรนอีกแล้ว

นาฬิกาเดินถอยหลังแล้ว เมื่อประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศชัดเจน: จะไม่ขยายระยะเวลาพักเก็บภาษีสำหรับประเทศส่วนใหญ่ หากไม่มีข้อตกลงก่อนวันที่ 9 กรกฎาคม คาดว่าภาษีจะกลับมาในระดับสูงถึง 25%, 35% หรือแม้แต่ 50%

นี่ไม่ใช่แค่นโยบาย — มันคือเกมเศรษฐกิจเชิงพฤติกรรมที่รุนแรง

ผมใช้เวลานานในการจำลองโครงสร้างแรงจูงใจในระบบที่กระจายศูนย์ และจริงๆ แล้ว… มันเหมือนการเปลี่ยนแปลงระบบโดยไม่มีความเห็นชอบร่วมกัน (hard fork)

การทำงานของกลยุทธ์การเจรจาแบบกดดัน

เราต้องเปิดเผยความจริง: สิ่งนี้ไม่ได้มองเรื่องความยุติธรรม เป็นเรื่องอำนาจ การวางกรอบความสั关系ทางการค้าให้เป็นสองฝ่าย (เป็นเพื่อนหรือไม่เป็นเพื่อน) สื่อถึงตรรกะศูนย์ผลประโยชน์ เหมือนในบทสนทนาเรื่องกฎระเบียบบล็อกเชนมายังเร็วๆ

จดหมายที่เขากำลังเตรียม? มันคือการบังคับใช้ล่วงหน้า — เหมือนส่งใบแจ้งหนี้พร้อมบทลงโทษฝังไว้

ตรงกับแนวคิด ‘การออกแบบสัญญาบังคับ’ ในเศรษฐศาสตร์คริปโต: เพียงทำให้การละเมิดกลายเป็นภาระทางเศรษฐกิจที่หลีกเลี่ยงได้ยาก

เอกสารภาษียอดเหมือนสัญญาอัตโนมัติแต่ขาดการตรวจสอบ

ใน DeFi เราสร้างสัญญาอัตโนมัติตามกฎที่แน่นอน เมื่อปล่อยออกแล้วจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่ประเด็นสำคัญคือ… การเก็บภาษียังคงขึ้นอยู่กับความสมเหตุสมผลของมนุษย์และเสถียรภาพทางการเมือง

แต่เมื่อผู้นำบอกว่า ‘เราจะส่งเลขให้’, มันเหมือนการทำงานของสัญญาอัตโนมัติ โดยไร้โค๊ดตรวจสอบหรือโปร่งใส

ความเสี่ยงระบบแทรกซึมตรงที่ขาดการตรวจสอบ

การตอบสนองของตลาดและความเสียหายซ่อนเร้น

ตลาดเกลียดความคลุมเครือ — แต่มักชอบความแน่นอน… เว้นแต่ว่าความแน่นอนมาจากคำขู่

ตอนนี้ผู้ส่งออกทุกรายกำลังปรับโมเดลความเสี่ยงใหม่:

• กรุงจางจะเจรจากับสหรัฐฯไหม?
• สหภาพยุโรปจะยอมแพ้อะไร?
• ประเทศเล็กๆ จะยอมจ่ายเงินเพื่อร่วมวงไหม?

เหมือนแผนเสนอ DAO อันใหม่ โดยผู้ลงคะแนนคนเดียวควบคุมโทเค็นทั้งหมด และสามารถควักเอาออกได้

ใช้อภิปรายคริปโตเพราะตรงประเด็น: พฤติกาณ์ห่วงโซ่อุปทานเป็นเครือข่ายกระจาย; การเก็บภาษีคือการควบคุมเข้าถึง; การเจรจาเหมือนโหวตกฎหมายบนบล็อกเชน (พร้อมกระบอกปืน)

กรอบสงครามเย็นมาประชดร้านขายปลีกกับโลกร้อนไหม?

เมื่อทรัมป์บอกว่า ‘บางประเทศเราไม่สนใจ’ — เพียงประโยคนี้บอกอะไรหลายอย่างเกี่ยวกับแนวคิดใหม่นี้: เอกเทศโดยเลือกสรร พื้นฐานอำนาจแปรผัน โดยประเทศใดถูกกำหนดว่า ‘ไม่มากำหนด’ จะโดนปฏิเสธมากกว่าแค่มวลรวม – มันถูกผลักออกจากกลุ่มน้อยทางพาณิชยกรรมอย่างไร้มูลฐาน, เป็นเพียงโหนดนอกสายในระบบที่ยอมเฉพาะโหนดภายในเท่านั้น.