ทอง COMEX จะแตะ $3,500 ในปี 2025: การวิเคราะห์เชิงเหตุผลเชื่อมโยงจากปัจจัยเศรษฐกิจ

เรามาตัดประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องออกกันเถอะ ผมใช้เวลาห้าปีวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชนมานาน และตอนนี้นำแนวทางเดียวกันมาประยุกต์ใช้กับตลาดโลหะมีค่าและสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยรายงานจาก China Galaxy Securities ไม่ใช่แค่คาดการณ์ธรรมดา—มันคือสัญญาณที่ควรถูกวิเคราะห์ย้อนกลับ

ทอง COMEX เริ่มปรับตัวขึ้นตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2024 แต่หากเราไม่มองให้ลึก เราอาจพลาดภาพใหญ่ได้ พื้นหลังการเคลื่อนไหวราคาใดๆ มีห่วงโซ่อันซับซ้อน เช่นเดียวกับสัญญาอัจฉริยะบน Ethereum เพียงแต่มีสถาบันโลกแห่งความจริงแทนโค้ด

เครื่องกำเนิดเงินเฟ้อเริ่มเสียหาย

เงินเฟ้ออาจลดลงในข้อมูล CPI โดยรวม แต่ตัวชี้วัดหลักยังคงแข็งแกร่ง ส่วนผมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านสถิติ จะมอง กระแสไหลเข้า-ออกของ ETF อ้างอิงทอง, การซื้อสะสมของธนาคารกลาง, และ ความแข็งแรงของดอลลาร์ เป็นตัวบ่งชี้นำหน้า (leading indicators)

รายงานจาก China Galaxy Securities อ้างถึงแนวราคารอง (price floor) โดยคาดว่าจะเกิน $3,300/ออนซ์ภายในปลายปี 2025 — สูงกว่าระดับที่เคยเห็นในปี 2011 เป็นครั้งแรก มูลค่านี้ไม่มากจากอากาศเปล่า มันสะท้อนจากการทำธุรกรรมระยะยาวและการเปลี่ยนแปลงของผลตอบแทนจริง (real yield inversion)

คุณไม่จำเป็นต้องจบ MBA เพื่อเข้าใจ: เมื่อผลตอบแทนจริงเป็นลบในประเทศ G7 (ตอนนี้เกิดแล้ว) ก็หมายความว่าทองคำไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์อีกแล้ว มันกลายเป็น แหล่งสำรองหลัก

พฤติกรรมสงคราม = Black Swan อารมณ์ในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

ผมเรียกว่า ‘โอกาสในการเบี่ยงเบนอนุพันธุ์ความเสี่ยง’ เมื่อรบพุทธศึกใกล้มุมจำกัดอย่างช่องแคบฮอร์เมซหรือทะเลแดง โดยเฉพาะหากมาตรการคว่ำบาตรกระทบการขนส่ง เราจะเห็นราคาเชื้อเพลิงและโลหะมีค่ากระโดดขึ้นอย่างฉับพลัน

รายงานระบุว่า WTI จะทะลุ $75/บารrels หากสถานการณ์เลวร้ายจนถึงไตรมาสสาม และตรงไปตรงมา: คนลงทุนมักวางเดิมพัน “ความโกลาหล” ก่อน “พลังงาน” เมื่อมหาอำนาจตกอยู่ในภาวะสงคราม — และทองคำมักเติบโตนำหน้าราคาน้ำมัน

ใช่ว่าแม้ว่าคุณกำลังอ่านบทความเกี่ยวกับ DeFi และ MEV bots… พื้นฐานเศรษฐกิจขนาดใหญ่อยู่เหนือกฎเหล็กเสมอ มันจะกลับมาเหมือนฟีเจอร์ gas fee ในระบบ Ethereum — เหมือนไร้น้ำหนักจนกระทั่งกระทบพอร์ตโฟลโคลของคุณโดยตรง

การกระทำของธนาคารกลาง: การสะสมแบบเงียบที่ทรงพลัง ⚡️

ตรงไหนสนุก? ธำเนินการหลายแห่งกำลังซื้ออ้างอิงทองคำในระดับประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะจีนและอินเดีย โดยพวกเขาไม่ได้มองหาผลกำไรจากการคาดเดาตลาด — สุดยอดผู้สะสมเชิงกล战略 เพื่อรักษาระยะปลอดภัยจากรายละเอียดโครงสร้างระบบระหว่างประเทศ

หากคิดว่าธนาคารกลางแค่มองเลข CPI… มาลองเล่นเกมทฤษฎีสมองพร้อมๆ กันเถอะ! เขาเล่นเกมระยะยาวหลายทศวรรษโดยมองว่าโลหะกายภาพเป็นแหล่งสำรองที่ไว้วางใจได้น้อยกว่ายอดเงินบนระบบดิจิตอล—even Bitcoin’s decentralization can’t beat national treasury reserves when trust erodes globally.

เรื่องราวไม่อยู่ที่อารมณ์ตลาด — มันอยู่ที่สมุดรายชื่อบัญชีภายใต้อาวตารของการกดกระแทก

$3,500 จะไร้มูลค่าหรือ? — มันเป็นไปได้อย่างมาก ⚙️

แนวโน้มที่จะทำลายระดับ $3,500 ใน COMEX Gold might sound like hype จากวงการ crypto—butใครๆ ก็เห็นตามสายตาผู้บริหารกองทรัสตี้แล้ว: เราแทบจะไปถึงภาวะเงินเฟ้อลดลงแบบถาวรเลย

เรากำลังเข้าสู่ยุคอารมณ์ใหม่โดย ทรัสตี้ดิจิตอล และ ความสามารถในการขาดแคลนทางกายภาพ เป็นเครื่องประกันควบคู่กันได้อย่างไร้ง่าย ๆ ก็เพราะทองคำไม่มากจากการ “โบราณ” มันเพราะ “ไม่มีใครจำเป็นต้องไว้วางใจคนกลาง”

The irony? I once built high-frequency trading algorithms that profited from microsecond delays between order books—and now I’m arguing that long-term capital preservation will survive longer than any flash crash bot ever will.

The key insight? Don’t treat gold like a stock or index fund. See it as anti-systemic insurance. If you’re building your portfolio with DeFi yield strategies or tokenized real estate… make sure your risk exposure has a hard stop beyond which nothing can be trusted except cold storage—and maybe some physical bars under your mattress (or vault). For those who want deeper analysis—including chain-link visualizations of macro trends tied to ETH gas fees and stablecoin issuance—I publish quarterly insights via my newsletter (link below). This isn’t just analysis—it’s survival architecture.