5 พันล้านผิดพลาด

การถอนตัวที่รู้สึกเหมือนทรยศ

ผมเคยเห็นบริษัทสตาร์ทอัพหลายแห่งเข้าตลาดหุ้น แต่ IPO ของ Circle? มันรู้สึกเหมือนชัยชนะพร้อมปิดประตูแล้ว

ด้วยการเสนอหุ้นถึง 60% จากผู้บริหารและนักลงทุนรายแรก การระดมทุนไม่ใช่เพื่อเติบโต แต่เพื่อสภาพคล่อง เจเรมี อัลเลียร์ และซีอาน เหนวิลล์ไม่ได้แค่ขายหุ้น—they ก็ขายความเสี่ยงของตนเอง เมื่อราคาอยู่ที่ \(31/หุ้นพวกเขาได้เงินสดจริงๆ กว่า \)600M เมื่อราคาพุ่งแตะ \(298? การเสียโอกาสเกินกว่า \)5B

สำหรับคนภายนอก: การประเมินผิดพลาดอย่างร้ายแรง ส่วนผม: เป็นกรณีศึกษาคลาสสิกของการปกป้องตนเองอย่างมีเหตุผล

เพราะอะไรพวกเขาถึงออก—และคุณควรสนใจไหม?

มาเจาะประเด็นจริง: หากคุณสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน ความผันผวนคือศัตรู—not fuel.

Circleไม่ได้ออกแบบ stablecoin มัน มาตรฐาน มันด้วยกฎระเบียบที่เข้มงวด, การตรวจสอบสำรองอย่างโปร่งใส และพันธมิตรกับกองทุนจาก BlackRock ในขณะเดียวกันโมเดลดำเนินงานไม่ใช่นักลงทุนมือใหม่—แต่มีหน้าที่รับผิดชอบความเสถียรภาพ

และนั่นเองจึงเป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมพวกเขาถึงถอนตัวตอนนี้

คิดว่าผมไร้อุดมการณ์หรือเปล่า? มาดูข้อเท็จจริง: เกือบ 95%+ของรายได้มายจากดอกเบี้ยสำรอง—หมายความว่ารายได้มีความขึ้นอยู่กับ อัตราดอกเบี้ย โดยไม่ใช่วงเงินซื้อขายหรือราคาเหรียญคริปโต หากกฎระเบียบแน่นขึ้น (และจะแน่นขึ้นครับ) หรือดอกเบี้ยตก (ซึ่งเริ่มแล้ว) จะเกิดอะไรขึ้นครับ?

ผู้ก่อตั้งไม่อยากรอหาคำตอบครับ

ตลาดกำลังวางเดิมพันบนสิ่งอื่น—and that’s risky.

ในขณะเดียวกัน Wall Street ก็เชื่อมั่นมั่นอกมั่นอนว่า Circle จะกลายเป็น ‘ดอลลาร์ดิจิตอล’ โดยบรรณาธิการคาดการณ์ว่า USDC จะครอบครองตลาด stablecoin มูลค่ากว่า $2T ในปี 2030 — เรื่องราวเหล่านี้แทรกซึมในคำแนะนำซื้อนานาประการ

แต่มีบางอย่างที่พวกเขาละเลย:

• การให้อนุมัติกฎหมายยังคงเป็นคำถามภายในหลายปี (แม้ว่า GENIUS จะผ่าน)
• พฤติกรรม Tether มีอำนาจเหนือกว่ายังไง และไม่มีความเข้ากันได้นานาประเทศ
• การทำงานระหว่างโซ่มูลค่าน้ำหนักเบา— exploits เพียงครั้งเดียวอาจทำลายความเชื่อมั่นได้อย่างรวดเร็ว
• และโปรดจำไว้ว่า: ใครก็ตามไม่มีกรรมสิทธิ์ USDC — มันกระจายไปบนหลายโซ่มอบให้นักบริหารภายนอกดำเนินการ

แต่นักลงทุนมูลค่านำเสนอราคาเติบโตแบบเอ็กซ์โปเน้นเช่นราวกับความเสี่ยงเหล่านี้จะหายไป เป้าหมายแบบฝันเหล่านี้จะคงอยู่จนกระทั่ง ‘ความจริง’ มาเยือน—and history shows Wall Street always pays high for underestimating friction in financial systems.

การเรียนรู้เชิงกลย战术จากภายในระบบ (โดยเฉพาะเจาะจากภายใน)

ในฐานะคนเคยทำงานในแล็บ blockchain จาก Morgan Stanley ก่อนเข้า DeFi เป็นอาชีพเต็มเวลา ผมเข้าใจแนวโน้มหลักของสถาบันในการหลบเลี่ยงความเสี่ยง The irony? เราเรียก Circle ‘ปฏิกิริยา’ ในขณะที่คณะทำงานแฝงแผนป้องกันผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงมาตลอดแม้นโยบายใหม่อยู่ในช่วงแรก ๆ The founders didn’t fear innovation—they feared unpredictability. And that makes perfect sense when you’re managing billions in liabilities backed by real dollars held in real banks. They weren’t running from success—they were protecting it from chaos. That’s not failure—it’s foresight disguised as surrender.